พลิกโฉมอุตสาหกรรมปุ๋ยไทย
ด้วยนวัตกรรมการผลิตชนิดพิเศษ

แผนยุทธศาสตร์การจัดตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยละลายน้ำ (WSF) และปุ๋ยเคลือบผิว (Coating) ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมปุ๋ยสำหรับเกษตรกรรมสมัยใหม่ของประเทศไทย

<1.1 ปี
ระยะเวลาคืนทุน
฿6.3M
เงินลงทุนที่ต้องการ
800 ตัน/ปี
กำลังการผลิต

การพลิกโฉมเชิงกลยุทธ์

การเปลี่ยนผ่านจากการจ้างผลิต (OEM) สู่การเป็นผู้ผลิตเองด้วยเทคโนโลยีของเรา คือหัวใจของการปลดล็อกศักยภาพในการทำกำไรและสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการผลิต แต่คือการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจทั้งหมด

โมเดล OEM ปัจจุบัน

ราคาขาย

375 บาท/กก.

ราคาสูงสำหรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง

ต้นทุนการผลิต

220 บาท/กก.

ต้นทุนสูงจากการจ้างผลิต

อัตรากำไรขั้นต้น

~41%

ถูกจำกัดโดยต้นทุนจากซัพพลายเออร์

โมเดลผลิตเอง (เป้าหมาย)

ราคาขาย

100 บาท/กก.

ราคาเฉลี่ยที่เข้าถึงได้ทุกตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ต้นทุนการผลิต

~56 บาท/กก.

ลดต้นทุนลง 75% จากการควบคุมการผลิตเอง

อัตรากำไรขั้นต้น

~77%

สำหรับกลุ่มพรีเมียม และ ~44% สำหรับกลุ่มทั่วไป

โอกาสที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม

ภาคเกษตรกรรมสมัยใหม่ต้องการปุ๋ยคุณภาพสูงและสูตรเฉพาะทาง แต่ตลาดปัจจุบันยังมีช่องว่างสำคัญที่เราพร้อมจะเข้าไปเติมเต็ม ทั้งข้อจำกัดของสินค้านำเข้าและผลิตภัณฑ์ในประเทศ

ข้อจำกัดสินค้านำเข้า

  • ราคาสูงเกินความจำเป็น
  • มีความเสี่ยงด้านอุปทาน
  • ขาดความยืดหยุ่นในการปรับสูตร

ข้อจำกัดสินค้าในประเทศ

  • เน้นปุ๋ย NPK สูตรมาตรฐาน
  • ผลิตภัณฑ์ Ca-B เป็นชนิดน้ำ (ไม่คงตัว)
  • ไม่สามารถผลิตสูตรซับซ้อนได้

ทางออกของเรา

  • ผลิตในประเทศ ต้นทุนต่ำ คุณภาพสูง
  • นวัตกรรมปุ๋ย Ca-B ชนิดเม็ดเคลือบ
  • ผลิตได้ทุกสูตรซับซ้อนตามต้องการ

แผนการดำเนินงานสู่ความเป็นจริง

เรามีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนและรัดกุม ตั้งแต่การเลือกใช้กลยุทธ์เช่าโรงงานเพื่อความคล่องตัว การวางผังโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงกระบวนการผลิตและกรอบเวลาการขออนุญาตที่รวดเร็ว

กรอบเวลาสู่การผลิต (กลยุทธ์แบบเช่า)

เดือนที่ 1-2

ระยะเตรียมการ

จดทะเบียนบริษัท และทำสัญญาเช่าโกดังสำเร็จรูปในพื้นที่ EEC

1
2

เดือนที่ 2-5

ระยะขออนุญาตและปรับปรุง

ยื่นขอ ร.ง.4 พร้อมกับปรับปรุงพื้นที่ ติดตั้งระบบสนับสนุนต่างๆ ภายในโกดัง

เดือนที่ 4-6

ระยะขึ้นทะเบียนและเริ่มผลิต

ผลิตปุ๋ยตัวอย่าง ส่งตรวจและยื่นขอขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร พร้อมสำหรับการจำหน่าย

3

ผังโรงงาน (1,200 ตร.ม.)

คลังวัตถุดิบ(200 ตร.ม.)

ห้องควบคุมความชื้น

พื้นที่ผลิตและบรรจุ(500 ตร.ม.)
คลังสินค้าสำเร็จรูป(300 ตร.ม.)
รับ-จ่าย(100 ตร.ม.)

*แผนผังจำลองเพื่อแสดงสัดส่วนพื้นที่

กระบวนการทำงาน

1

รับวัตถุดิบ

ตรวจสอบเอกสารและคุณภาพเบื้องต้น นำเข้าจัดเก็บในคลังควบคุมความชื้นตามหลัก FIFO

2

เบิกวัตถุดิบ

ฝ่ายผลิตออกใบเบิก คลังสินค้าจัดเตรียมวัตถุดิบและนำส่งไปยังพื้นที่ผลิต

3

ผลิตและเคลือบผิว

ชั่งตวงตามสูตร นำเข้าเครื่องผสม/เคลือบผิวด้วยลมร้อน พร้อม QC ระหว่างผลิต

4

บรรจุและจัดเก็บ

บรรจุลงถุง 25 กก. ซีลและติดฉลาก ก่อนนำไปจัดเก็บในคลังสินค้าสำเร็จรูป

ศักยภาพทางการเงินและการลงทุน

ด้วยกลยุทธ์การเช่าโรงงาน ทำให้เงินลงทุนเริ่มต้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับอัตรากำไรที่แข็งแกร่งจากการควบคุมต้นทุนการผลิตเอง ทำให้โครงการนี้มีศักยภาพในการคืนทุนที่รวดเร็วและสร้างผลกำไรที่น่าสนใจในระยะยาว

งบประมาณการลงทุน (CAPEX)

  • เครื่องจักรและอุปกรณ์ ฿1.0M
  • ปรับปรุงและติดตั้งระบบ ฿2.05M
  • ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ฿0.68M
  • เงินทุนหมุนเวียน ฿1.75M
  • รวมค่าใช้จ่าย ฿5.48M
  • เงินทุนสำรอง (15%) ฿0.82M
  • รวมเงินลงทุนทั้งสิ้น ฿6.3M

ประมาณการทางการเงิน 5 ปี (ล้านบาท)

การประเมินความเสี่ยงและแนวทางรับมือ

เราได้วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งวางแนวทางการจัดการและบรรเทาผลกระทบอย่างเป็นระบบ เพื่อให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและยั่งยืน

- การแข่งขันด้านราคา: เน้นสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม (Ca-B เคลือบผิว) และบริการผลิตสูตรเฉพาะ ซึ่งคู่แข่งทำได้ยาก

- การยอมรับผลิตภัณฑ์ใหม่: สร้างกรณีศึกษาจากแปลงทดลองจริง และให้ความรู้ตลาดผ่านทีมขายและตัวแทนจำหน่าย

- การหยุดชะงักของซัพพลายเชน: กระจายซัพพลายเออร์อย่างน้อย 2 ราย, สำรองวัตถุดิบหลัก 1.5-2 เดือน, และเจรจาสัญญาระยะยาว

- ความปลอดภัยในการจัดการสารเคมี: บังคับใช้ SOP ที่เข้มงวด, จัดอบรมและ PPE, และซ้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน

- ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ: ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และใช้ประโยชน์จากการสั่งซื้อจำนวนมากเพื่อต่อรองราคา

- ข้อจำกัดด้านกระแสเงินสด: จัดหาเงินทุนให้เพียงพอทั้ง CAPEX และเงินทุนหมุนเวียน และบริหารสินเชื่อการค้าอย่างรัดกุม

- ความล่าช้าในการขอใบอนุญาต: ว่าจ้างที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ, เตรียมเอกสารล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาเผื่อในแผนโครงการ

- การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย: มอบหมายผู้รับผิดชอบติดตามประกาศจากหน่วยงานรัฐ และปรับตัวเชิงรุกให้สอดคล้อง

วิสัยทัศน์แห่งอนาคต: สู่ผู้นำปุ๋ยควบคุมการปลดปล่อย (CRF)

ความสำเร็จของโครงการนี้เป็นเพียงก้าวแรก จากความสำเร็จของทีมวิจัยที่สามารถเคลือบผิว $Ca(NO_3)_2$ ให้ปลดปล่อยธาตุอาหารได้นานถึง 150 วัน เราพร้อมที่จะต่อยอดสู่ตลาดปุ๋ย CRF ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทัดเทียมกับผู้ผลิตชั้นนำของโลก

การลงทุนขั้นต่อไป

ลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรเฉพาะทาง เช่น เครื่องเคลือบแบบฟลูอิไดซ์เบด (Fluidized Bed Coater) เพื่อการผลิต CRF ในระดับอุตสาหกรรมที่มีความเสถียรและแม่นยำสูงสุด ซึ่งจะเปิดโลกใหม่แห่งการเคลือบปุ๋ยในประเทศไทย และสร้างความได้เปรียบที่คู่แข่งยากจะตามทัน